"... ต้นไม้จะบอกกับเราว่า เมื่ออยู่สูงแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้สูงตาม เพราะภาระที่สำคัญคือ การยืนต้านเม็ดฝนและลมแรง ..."
(ไม้ยืนต้น, หน้า ๙)
"... การเดินทางของชีวิตเช่นเดียวกับการเดินทางบนภูเขา ช่วงก่อนถึงจุดหมายปลายทางมีคนไม่น้อยที่มักหวั่นไหว พวกเขากลัวทางแยก วิตกกับความมืดหวาดผวากับสิ่งไม่รู้จัก และกลัวเกรงกับการผิดพลาด แต่คนเดินบนภูเขารู้ดีว่า ความอ่อนแอเป็นพี่ชายคนโตของความหวาดกลัว โดยมีความล้มเหลวเป็นน้องคนสุดท้อง ..."
(ทางบนภูเขา, หน้า ๑๖)
"... ที่ว่างเวิ้งว้างช่วยให้เราเข้าใจความคับแคบสับสนของชีวิต ขณะที่ความนิ่งสงบไร้ชีวิตกลับทำให้สมเพชความผันแปรอันไร้จุดหมายของมนุษย์ ..."
(ความว่างเปล่ากับชีวิตบนทุ่งหญ้าทัสส็อค, หน้า ๒๔)
"... ความคิดของมนุษย์ไม่สอดคล้องเป็นจังหวะเดียวกับธรรมชาติได้นาน เวลาที่เราได้พักอยู่กับธรรมชาตินาน ๆ เรามักอดไม่ได้ที่จะเอาความปรารถนาของเราไปใส่ให้กับธรรมชาติ ..."
"... สิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างแท้จริงก็คือ ความเงียบ ความนิ่ง ความอบอุ่นในใจ
บนภูเขา หมอกที่นิ่งสงบไม่ไหวติง มักมีเพียงชั่วครู่เท่านั้น สักพักมันจะพลุ่งพล่าน แล้วลมจะพัดแรงหรือไม่ก็มีฝนตก
ปราชญ์ตะวันออกจะจึงย้ำเสมอว่า เมื่อมีความนิ่งย่อมมีความเคลื่อนไหวตามมา..........
..................................................................................................................................................................................................................
เมื่อมีทุกข์มีสุขก็ย่อมตามมาด้วยความเปลี่ยนแปร นี่เป็นกฎเกณฑ์ทั่วไปของชีวิต ..."
(ความสงบในลมหนาว, หน้า ๓๖ - ๓๗)
"... วัฒนธรรมไทยให้ความสำคัญกับจิตใจ เราใช้คำว่า "เข้าใจ" แทนความตระหนักรู้ มีคำว่า "ประทับใจ" "วัดกันด้วยใจ" จนอาจกล่าวได้ว่า พฤติกรรมการงานทั้งสิ้นทั้งปวงของคนไทย ถ้าทำไปด้วย "ใจบริสุทธิ์" ก็ถือเป็นสิ่งดีงามทั้งหมด ..."
"... วัฒนธรรมตะวันตกโน้มเอียงไปให้ความสำคัญกับการมองและแสงสว่าง ถ้าจะเรียกพวกเขาว่าเป็น วัฒนธรรมแห่งแสงสว่าง (light culture) ก็คงไม่ผิด พวกเขาใช้คำว่า "I see" แทนความหมายว่าเข้าใจ คำว่า "vision" และ "insight" (ที่อยู่ในสายตา) แทนการหยั่งรู้และการมองการณ์ไกล ด้วยเหตุนี้ ศิลปะของพวกเขาจึงเน้นไปที่ภาพวาดกับลวดลายและรูปทรงที่งดงาม ..."
"... คนเยอรมันอาจต่างไปจากคนตะวันตกทั่วไป คำว่า understanding ของคนเยอรมันไม่ใช่ทั้ง "เข้าใจ" หรือ "ฉันเห็น" แต่เป็น verstehen ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก "การตั้งใจฟัง" ..."
"... แต่ผม (อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี) ก็อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า การเข้าถึงความจริงสูงสุด ไม่ว่าจะมีพื้นฐานมาจากจิตใจอันละเอียดอ่อน สายตาที่แจ่มชัด หรือสุนทรีย์อันสูงส่งในการเข้าถึงดนตรีและกาพย์กลอน จะมีความหมายอะไรหรือ ถ้ามันไม่ผูกพันกับชีวิต ..."
... (สวนหินในเกียวโต, หน้า ๔๙ - ๕๐)............................
.........................................................................................................................................................................................................
"... ฝนผลักไสให้คุณฝังตัวเข้าไปในอดีต
และฝนมักทำให้คุณเสียใจกับความผิดพลาดของวันวาน ..."
"... ทำไมมนุษย์มักหวนกลับไปหาความเศร้าสร้อยเมื่อเวลาฝนตก
อาจเป็นเพราะทั้งแผ่นฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น (สีเทามักทำให้เราเศร้าเสมอ?) ..."
(ฝนกับความหลัง, หน้า ๗๑)
ขอบคุณบทความบางส่วนจากหนังสือ การเดินทางในจิตใจ : บทตริตรองชีวิตและธรรมชาติ ของ อ.ธีรยุทธ บุญมี
ที่มา : http://www.gotoknow.org/blog/scented-book/455765
(ไม้ยืนต้น, หน้า ๙)
"... การเดินทางของชีวิตเช่นเดียวกับการเดินทางบนภูเขา ช่วงก่อนถึงจุดหมายปลายทางมีคนไม่น้อยที่มักหวั่นไหว พวกเขากลัวทางแยก วิตกกับความมืดหวาดผวากับสิ่งไม่รู้จัก และกลัวเกรงกับการผิดพลาด แต่คนเดินบนภูเขารู้ดีว่า ความอ่อนแอเป็นพี่ชายคนโตของความหวาดกลัว โดยมีความล้มเหลวเป็นน้องคนสุดท้อง ..."
(ทางบนภูเขา, หน้า ๑๖)
"... ที่ว่างเวิ้งว้างช่วยให้เราเข้าใจความคับแคบสับสนของชีวิต ขณะที่ความนิ่งสงบไร้ชีวิตกลับทำให้สมเพชความผันแปรอันไร้จุดหมายของมนุษย์ ..."
(ความว่างเปล่ากับชีวิตบนทุ่งหญ้าทัสส็อค, หน้า ๒๔)
"... ความคิดของมนุษย์ไม่สอดคล้องเป็นจังหวะเดียวกับธรรมชาติได้นาน เวลาที่เราได้พักอยู่กับธรรมชาตินาน ๆ เรามักอดไม่ได้ที่จะเอาความปรารถนาของเราไปใส่ให้กับธรรมชาติ ..."
"... สิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างแท้จริงก็คือ ความเงียบ ความนิ่ง ความอบอุ่นในใจ
บนภูเขา หมอกที่นิ่งสงบไม่ไหวติง มักมีเพียงชั่วครู่เท่านั้น สักพักมันจะพลุ่งพล่าน แล้วลมจะพัดแรงหรือไม่ก็มีฝนตก
ปราชญ์ตะวันออกจะจึงย้ำเสมอว่า เมื่อมีความนิ่งย่อมมีความเคลื่อนไหวตามมา..........
..................................................................................................................................................................................................................
เมื่อมีทุกข์มีสุขก็ย่อมตามมาด้วยความเปลี่ยนแปร นี่เป็นกฎเกณฑ์ทั่วไปของชีวิต ..."
(ความสงบในลมหนาว, หน้า ๓๖ - ๓๗)
"... วัฒนธรรมไทยให้ความสำคัญกับจิตใจ เราใช้คำว่า "เข้าใจ" แทนความตระหนักรู้ มีคำว่า "ประทับใจ" "วัดกันด้วยใจ" จนอาจกล่าวได้ว่า พฤติกรรมการงานทั้งสิ้นทั้งปวงของคนไทย ถ้าทำไปด้วย "ใจบริสุทธิ์" ก็ถือเป็นสิ่งดีงามทั้งหมด ..."
"... วัฒนธรรมตะวันตกโน้มเอียงไปให้ความสำคัญกับการมองและแสงสว่าง ถ้าจะเรียกพวกเขาว่าเป็น วัฒนธรรมแห่งแสงสว่าง (light culture) ก็คงไม่ผิด พวกเขาใช้คำว่า "I see" แทนความหมายว่าเข้าใจ คำว่า "vision" และ "insight" (ที่อยู่ในสายตา) แทนการหยั่งรู้และการมองการณ์ไกล ด้วยเหตุนี้ ศิลปะของพวกเขาจึงเน้นไปที่ภาพวาดกับลวดลายและรูปทรงที่งดงาม ..."
"... คนเยอรมันอาจต่างไปจากคนตะวันตกทั่วไป คำว่า understanding ของคนเยอรมันไม่ใช่ทั้ง "เข้าใจ" หรือ "ฉันเห็น" แต่เป็น verstehen ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก "การตั้งใจฟัง" ..."
"... แต่ผม (อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี) ก็อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า การเข้าถึงความจริงสูงสุด ไม่ว่าจะมีพื้นฐานมาจากจิตใจอันละเอียดอ่อน สายตาที่แจ่มชัด หรือสุนทรีย์อันสูงส่งในการเข้าถึงดนตรีและกาพย์กลอน จะมีความหมายอะไรหรือ ถ้ามันไม่ผูกพันกับชีวิต ..."
... (สวนหินในเกียวโต, หน้า ๔๙ - ๕๐)............................
.........................................................................................................................................................................................................
"... ฝนผลักไสให้คุณฝังตัวเข้าไปในอดีต
และฝนมักทำให้คุณเสียใจกับความผิดพลาดของวันวาน ..."
"... ทำไมมนุษย์มักหวนกลับไปหาความเศร้าสร้อยเมื่อเวลาฝนตก
อาจเป็นเพราะทั้งแผ่นฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น (สีเทามักทำให้เราเศร้าเสมอ?) ..."
(ฝนกับความหลัง, หน้า ๗๑)
ขอบคุณบทความบางส่วนจากหนังสือ การเดินทางในจิตใจ : บทตริตรองชีวิตและธรรมชาติ ของ อ.ธีรยุทธ บุญมี
ที่มา : http://www.gotoknow.org/blog/scented-book/455765
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น