วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

.อรุณสวัสดิ์ยามเช้า กลอนวิงวอน-ขอโทษ1



อรุณสวัสดิ์ยามเช้า
สัญญาว่ารักแห่งสองเรา...ไม่เก่าหนอ
ทุกสิ่งอย่าง..วางเอาไว้....ให้เพียงพอ
สานสืบต่อ ขอเพิ่ม ...เสริมดวงแด ♥ แค่นิรันดร์ ฉันรักคุณ .......

***************************


“สดับ... สรรพสิ่ง
สงบนิ่ง... มิติงไหว
คล้ายคล้าย... จะวายใจ
เจ็บมลาย... เจียนตายเยือน”


ไม้เสียดลำ...คำแผด...ตอนแดดเปรี้ยง
ยินสำเนียง...เสียงขับ...สดับเหมือน
สัญญาณตาม...ถามตอบ...บิดกรอบเบือน
ความจริงเคลื่อน...เลือนหาย...คลายอุรา

คิดถึง...คนไกล...คนนั้น
รอวัน...เธอเพรียก...เรียกหา
นับดาว...นับวัน...คืนค่ำ...นำพา
ต้องนับ...ซ้ำไปซ้ำมา...กี่ครั้งกี่ครา...จะได้เจอ

ขอบคุณ...ที่ย้อนกลับมาทำให้ชีวาสดใส
ขอบคุณ...กำลังใจที่มีให้กันเสมอเสมอ
ขอบคุณ...ฟ้าที่ให้วันดีดีที่มีเวลาให้ฉันกับเธอ
ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันพบเจอความรักจากเธอ...
ที่แค่...ที่แคร์...ที่แท้จริง
....................................................................................

"ฉันรู้ชีวิตนี้ไม่มีใคร...­จะรักฉันได้เหมือนเธอ" 
*** วันฟ้าสวย...ด้วยแรงสาดแสงส่อง
นกต่างร้องผองกาหาอาหาร
แสงจรรโลงโค้งกายดอกไม้บาน
สุดตระการม่านฝัน...แห่งวันจริง

ยามเหน็บหนาวคราวใดอาศัยแหล่ง
พลังแรงแสงใส่ราวไฟผิง
อุ่นตะวันอันงามยามพักพิง
มิเคยทิ้งสิ่งใด...ให้ไร้เงา

รุ่งรวีกี่คราตื่นตารับ
แสงประดับจับวางระหว่างเขา
รัศมีผ่านม่านหมอกสู่ดอกเลา
ที่จับเจ่าเฝ้ายิ้ม...ณ ริมใจ..
.................................................................................

.
ไม่มีน้ำ แม้ปลาจะว่ายเก่งเพียงใดก็ไม่รอด. (จูกัดเหลียง..ขงเบ้ง)
****
ไม่มีฟ้า นกกาจะโผบินไปมาได้อย่างไร. (ศรัทาแห่งรัก..แคร์)..
***
ท้องทะเล...เทคลื่นนับหมื่นครั้ง
หากชายฝั่งยังนิ่งมิติงไหว
เสียงครืนครืนคลื่นสาดรินราดไป
ถาโถมใส่ไม่ยั้ง...ดุจดั่งเคือง

คลื่นระลอกตอกย้ำสิ่งซ้ำซาก
ให้ยุ่งยากมากพอโหมต่อเนื่อง
กระทบเบียดเสียดจิตหยุดคิดเคือง
ใจปลดเปลื้องเรื่องลบ...จบบทเตือน

ฝั่งฟากนี้...มีรุ้ง...ทอคุ้งฟ้า  
พาดเมฆาทาทาบราวภาพเหมือน  
สะพานโค้งโยงฟ้าแผ่วพร่าเลือน  
พร้อมเป็นเพื่อนเคลื่อนคล้อง...วันสองเรา
  
***************************************************
****++++++++++++++++***********
อรุณสวัสดิ์ครับ

ตื่นแต่เช้าแสงเงินแสงทองเริ่มส่องขอบฟ้า..
สาลิกาบินมา บินมา ร้องเพลงกังวาน
มวลบุปผาแย้มกลีบ ผลิบาน..
เราสำราญรื่นเริงเมื่อปลูกดอก
ไม้.. แห่งไมตรี..
 
 ก็มีบ้างบางคราว…โลกหนาวเหน็บ 
สุขกวาดเก็บเจ็บแต่พอแผลปริ่ม
ผ่านชีวิตติดกรอบสุดขอบริม
ทั้งหิวอิ่มยิ้มได้…ร้องไห้เป็น

ก็มีบ้างบางคราว…รวดร้าวนัก
สุดห้ามหักหนักรุกท่ามทุกข์เข็ญ
น้ำตารื้นคืนค่ำที่ลำเค็ญ
สิ่งพบเห็นเช่นนั้น…ล้วนบั่นทอน

ก็มีบ้างบางคราว…ขาก้าวหยุด
คล้ายถึงจุดสุดดิ่งร่วงสิงขร
ในห้วงเหวเปลวฝันพาลสั่นคลอน
เวิ้งว้างว่อนกร่อนกัด….อ่อนหัดใด

ก็มีบ้างบางคราว…ร้อนผ่าวนิด
ที่เผลอคิดติดพันความฝันใหญ่
เมื่อความจริงยิ่งห่างยิ่งร้างไกล
จึงหวั่นไหวไปบ้าง…ไม่ต่างกัน 


********
............................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น