รู้จักรู้จิตรู้ใจรู้--
สังเกตุเห็นสีของท้องฟ้า ทุกเวลาไม่เหมือนกันเลยสักหน
เหมือนชีวิตของคนทุกคน ต่างสับสนดิ้นรนกันมากมาย
เช้าวันใหม่สดใสอรุณรุ่ง คนต่างมุ่งไขว่คว้าโกลาหล
เที่ยงสับสนวุ่นวายในบัดดล มีกี่คนได้เพ่งพินิจพิจารณา
เย็นแล้วอาทิตย์ก็เคลื่อนคล้อย หลายคนคอยรอวันใหม่ของพรุ่งนี้
ยิ่งรอยิ่งช้าเนิ่นนานไปทุกที จิตใจนี้ท่องไปไกลเกินใจตน
ตกดึกใจสงัดคิดเวียนวน คิดหลุดพ้นคืนนี้ไปให้ได้หนอ
คืนที่แสนทรมานได้แต่เฝ้ารอ จงอย่าท้อเพราะเวลานั้นเปลี่ยนแปลง
หมุนวนกลับมา ณ จุดเก่า จิตยังเฝ้าเวียนว่ายวนเวียนเอ๋ย
จงรู้จักรู้จิตรู้ใจรู้แจ้งเถิดเอย อย่าละเลยเฝ้าจิตตนพ้นภัยมาร
เวิ้งว้าง ว่างเปล่า เหงาหงอย เศร้าสร้อย โหยหา เหว่ว้า
อ่อนล้า อ่อนแอ หาที่พึ่งพา เสาะหา ทั่วทิศ จิตวุ่นวาย
หนทาง เดินไกล สุดปลายฝัน ไม่รู้วัน รู้คืน สุดใจหมาย
ค้นหา ไปสุด จากเกิดจนตาย ให้รู้กาย รู้ใจ ใกล้ ใกล้เอง
รู้นั้น รู้เพียงไร รู้แค่ไหน... รู้ๆไป รู้ให้จบ รู้ให้แจ้ง
รู้ว่าใจ กายนี้ เป็นเพียงบทแสดง จิตนี้แฝง มาเพื่อรู้ ใจกายตน
ทุกสิ่งอัน ล้วนเป็น แค่เพียงธาตุ เป็นอากาศ ดินน้ำ และลมไฟ
เกิดขึ้นได้ ย่อมดับ สลายไป ที่คงไว้ คือชั่วดี ที่กระทำ
กรรมดี นั้นมี ก็รับผล กรรมชั่วล้น รับใช้ กันเถอะหนา
เกิดตาย หลายชาติ เรียนรู้มายา เร่งเสาะหา รอดพ้น หยุดเกิดเอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น