วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อยากได้ยินว่ารักกัน อัสนี - วสันต์

สิ่งที่ฉันไม่รู้สิ่งที่ฉันไม่ค่อยรู้ ก็หัวใจของคน
อ่านหนังสือเล่มไหน วนเวียนวกวน
แต่ไม่นานยังเข้าใจ
บอกให้ฉันรับรู้บอกกับฉันว่าไม่รัก
ไม่ขอเป็น เพื่อนใจ
แต่ถ้าฉันได้เห็นแววตาครั้งใด
ไม่เหมือนคำที่พูดเลย

ใจคนเรา ยากเย็นเกินไป
ไม่เห็น ต้องทำให้ยากเลย
อย่างฉันก็ทำ ก็เป็นเหมือนอย่างเคย
บอกเลยจากใจ ว่ารักเธอ
ปากเธอแข็งรู้ไหมแต่ว่าฉันก็รับไหว ด้วยหัวใจที่รอ
ได้แต่หวังซ


ักครั้ง คำเดียวก็พอ อยากได้ยินว่ารักกัน

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เป็นธรรมชาติ

เป็นธรรมชาติ
ไม่มีใครเกิดมาเพื่อใครหรอก
คนทุกคนเกิดมาเพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเอง
ทำความรู้จักกับตัวเอง และรักตัวเองให้ดีที่สุด

ถ้ามีใครสักคนเคยบอกรักเรา และวันหนึ่ง..เขาจากไป
จงอย่าตั้งคำถามวกวนกับตัวเองว่าเป็นเพราะอะไร
แต่ให้คำตอบกับตัวเองอย่างง่ายๆว่า เพราะมันเป็นธรรมชาติ


ธรรมชาติที่สุดท้ายแล้วทุกคนจะเหลือแต่ตัวเอง
ไว้พูดคุยกับตัวเอง และโอบกอดตัวเองไว้
ในวันที่เคว้งคว้างว่างปล่าว และค้นพบว่า
เราอาจเป็นมนุษย์คนสุดท้ายบนผืนโลก

วิธีเดียวที่จะทำให้เราไม่หนาวตายเพราะความเหงา
นั่นก็คือ .. การกอบเก็บความทรงจำของวันเก่าก่อนมาสุมไฟ
นึกถึงรอยยิ้มที่บางคนเคย "มีให้"
นึกถึงคำที่คนบางคนเคยบอก "รัก"
และ .. นึกถึงอ้อมกอดที่บางคนเคย "โอบรัด"
ความอบอุ่นเหล่านั้นจะให้ให้เรารอดตาย

แม้สุดท้าย ..

ภาพทุกภาพจะมอดไหม้ไปกับกองไฟกองนั้นก็ตาม

มิตรภาพ

มิตรภาพ
คำบางคำแทนค่าความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูดใด ๆ

มิตรภาพมีค่าเกินคำบรรยาย
แหละมีความหมายมากต่อความรู้สึก

บางครั้ง ไม่จำเป็นต้องพบหน้า
แต่มิตรภาพก็สามารถสื่อผ่านได้ทางสายโทรศัพท์..

แม้จะเป็นบุคคลที่ไม่คุ้นเคย
แต่สายสัมพันธ์ทางโทรศัพท์กลับสามารถสื่อถึงมิตรภาพที่มีอยู่ในใจได้

ในเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ
บางครั้ง..ดูเหมือนไม่มีใครจะช่วยเราได้
แต่เพียงแค่กรอกเสียงลงไป
คำตอบที่ปลายสาย…
กลับเป็นคำตอบที่เราต้องการมากอย่างที่สุด…

แม้ไม่คุ้นเคย
แม้ไม่เคยรู้จัก
แม้ไม่เคยพบหน้าค่าตา

แต่มิตรภาพก็สามารถเกิดขึ้นได้…

คำบางคำแทนค่าความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูดใด ๆ

มิตรภาพมีค่าเกินคำบรรยาย
แหละมีความหมายมากต่อความรู้สึก

บางครั้ง ไม่จำเป็นต้องพบหน้า
แต่มิตรภาพก็สามารถสื่อผ่านได้ทางสายโทรศัพท์..

แม้จะเป็นบุคคลที่ไม่คุ้นเคย
แต่สายสัมพันธ์ทางโทรศัพท์กลับสามารถสื่อถึงมิตรภาพที่มีอยู่ในใจได้

ในเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ
บางครั้ง..ดูเหมือนไม่มีใครจะช่วยเราได้
แต่เพียงแค่กรอกเสียงลงไป
คำตอบที่ปลายสาย…
กลับเป็นคำตอบที่เราต้องการมากอย่างที่สุด…

แม้ไม่คุ้นเคย
แม้ไม่เคยรู้จัก
แม้ไม่เคยพบหน้าค่าตา

แต่มิตรภาพก็สามารถเกิดขึ้นได้…

คำคม สำหรับคนอกหัก

ความรัก





ยังไม่รู้จักความหมายคำว่า.. รัก หรอก.. ถ้ายังไม่เคยรู้ว่า.. ความรักเกิดจากความพอใจ

ยังไม่รู้จักคำว่า.. รัก หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. แอบรักใคร

ยังไม่รู้จักคำว่า.. เหงา หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. คิดถึงใคร

ยังไม่รู้จักคำว่า.. ห่วงใย หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. คิดอยากดูแลใคร

ยังไม่รู้จักคำว่า.. เสียสละ หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. เต็มใจให้ใคร

ยังไม่รู้จักคำว่า.. เติมเต็ม หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. เปิดใจรับใคร

ยังไม่รู้จักคำว่า.. โลกเป็นสีชมพู หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. คิดถึงและยิ้มได้ทั้งวัน

ยังไม่รู้จักคำว่า.. มั่นคง หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. รักและรอใครเพียงคนเดียว

ยังไม่รู้จักคำว่า.. กิ๊ก หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. คิดจะหลายใจ

ยังไม่รู้จักคำว่า.. ชู้ หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. รักคนมีเจ้าของแล้ว

ยังไม่รู้จักคำว่า.. กันและกัน หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. มีอะไรกัน

ยังไม่รู้จักคำว่า.. รักสามเศร้า หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. ใจอ่อนปันใจให้ใคร

ยังไม่รู้จักคำว่า.. ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. แอบรักทั้งที่เราเป็นเพื่อนกัน

ยังไม่รู้จักคำว่า.. เสียใจ หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. นอนร้องไห้ทั้งคืน

ยังไม่รู้จักคำว่า.. เราเข้ากันไม่ได้ หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. ได้ยินมันกับหู

ยังไม่รู้จักคำว่า.. หลอกลวง หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. หลอกตัวเอง

ยังไม่รู้จักคำว่า.. ภาพบาดตา หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. เห็นคนที่เรารักไปกับคนอื่น

ยังไม่รู้จักคำว่า.. ถูกทิ้ง หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. ได้ยินคำว่า เราเลิกกันเถอะ

ยังไม่รู้จักคำว่า.. อยากกลับมาเป็นเหมือนเดิม หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. มีความทรงจำที่ยากจะลืม


ยังไม่รู้จักคำว่า.. ทำใจได้หรอก หรอก.. ถ้ายังไม่เคย.. ลืมเขาได้ลง

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เป้าหมายหลักของชีวิต

เป็นที่น่าสังเกตว่า..
เราทุกคนล้วนถูกสั่งสอนกันมาในทิศทางคล้ายๆกันว่า
เงินจะทำให้เรามีความสุข
และถ้าอยากมีความสุขเราต้องมีเงิน
คำสอนผิดๆเหล่านี้ มีมานานนับร้อย นับพันปี
มันหยั่งรากลึก เข้าสู่แกนกระดูกแห่งความเป็นคนของเรา
ชนิดแยกกันไม่ออก นานวันเข้าก็กลายเป็นสามัญสำนึก
เป็นจุดมุ่งหมายในการดำเนินชีวิต
เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่นำมาชี้วัดความสำเร็จ


คงไม่มากเกินไป หากจะถือวิสาสะสรุปเอาเองว่า
ทุกวันนี้มนุษย์แทบทุกคน ใช้เวลาตั้งแต่เกิดจนตาย
เพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือ "หาเงิน"
เราเป็นนักสะสมวัตถุ วัตถุที่บางครั้ง เราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
เราหามันทำไม?

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ถ้าเงินซื้อความสุขได้จริง!
ทำไมคนรวยหลายคนจึงมีความทุกข์
ในขณะที่คนจนอีกหลายคน ยังใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข
ทำไมประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศทิเบต
จึงมีสุขภาพดีกว่าประชาชนบางคนในประเทศไทย
ซึ่งถือว่า...เป็นประเทศที่มีรายได้ประชาชาติสูงกว่า

ทำไมหลายคนจึงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"วัยเด็กเป็นวัยที่มีความสุขที่สุด"

ทั้งที่แน่นอนว่า ในกระเป๋าตังค์ของพวกผู้ใหญ่
ย่อมมีเงินมากกว่าเด็ก สิ่งเหล่านี้ล้วนบอกเราได้ชัดเจนว่า
ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นจากเงินทองเสมอไป
เช่นนั้นแล้วความสุขเกิดจากอะไรล่ะ?
เคยมีผู้นำประเทศท่านหนึ่งได้กล่าวเอาไว้ว่า

"สาเหตุที่ผมไม่ต้องการเปิดประเทศ
ให้ชาวต่างชาติเข้ามาค้าขายได้อย่างเสรีนั้น
เป็นเพราะว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศของเรา
มีความสุขอยู่แล้ว เป็นความสุขแท้จริง
ที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินทอง หรือวัตถุ
เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมไม่ต้องการให้พี่น้องร่วมชาติ
ทำนา ทำสวนทั้งปี เพื่อเอาเงินที่ได้
ไปแลกกับโทรทัศน์จอแบนเพียงเครื่องเดียว"

คำพูดนั้นสะท้อนอะไรบางอย่าง
ให้เราต้องกลับมาฉุกคิดทบทวน
เล็งเป้าหมาย จุดมุ่งหมาย
ปลายทางของชีวิตคือสิ่งสำคัญ
ถ้าเรามองผิด ตั้งผิด กำหนดผิด
ก็เหมือนกับ...รถยนต์ที่วิ่งบนถนนสายผิด
นักกีฬาที่แข่งขันผิดสนาม
เรือที่เดินทางผิดมหาสมุทร ไม่มีวันถึง
ไม่มีวันบรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตได้เลย
สิ่งที่กำลังจะบอกกล่าวกันก็คือ
เราจะเป็นต้องหมั่นซักถามตัวเองซ้ำๆว่า...
อะไรคือเป้าหมายหลักในชีวิตของเรา?
ขอยืนยันว่า...ชีวิตของคนเราทุกคนต้องมีเป้าหมายหลัก!
และเป้าหมายที่สอง สาม สี่ จะสวนกระแส
กับเป้าหมายหลัก หรือเป้าหมายที่หนึ่งไม่ได้เด็ดขาด

พ่อแม่บางคนมีเป้าหมายหลักคือ
อยากให้ลูกมีความสุข แต่กลับบังคับลูกทุกอย่าง
ให้เรียนในสิ่งที่ตนคิดว่าดี ให้เดินในทางที่ตนคิดว่าถูก
ทำให้ลูกเกิดความทุกข์ความสุขหดหาย
แบบนี้เรียกว่าเป้าหมายรองสวนทางกับเป้าหมายหลัก

หนุ่มสาวบางคู่ ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
มีเป้าหมายหลักคือ ต้องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
จึงซื้อบ้าน ซื้อรถที่ใหญ่เกินฐานะ ทำให้ตัวเอง
ต้องแบกภาระหนี้สินเกินความจำเป็น
มีเวลาให้กันน้อยลง เพราะต้องทำงานตัวเป็นเกลียว
หาเงินมาผ่อนสิ่งของเหล่านี้ ความอบอุ่นที่เคยมีหดหาย
เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น เพราะเครียดเรื่องเงินๆทองๆ
แบบนี้เรียกว่า เป้าหมายรองสวนทางกับเป้าหมายหลัก

เด็กสาวคนหนึ่งตัดสินใจซื้อนาฬิกาแพงๆมาใส่
เพราะคิดว่านาฬิกาเรือนนี้
น่าจะช่วยให้เธอดูร่ำรวยขึ้น ในสายตาของคนอื่น
แต่สุดท้าย เงินในกระเป๋าสตางค์ก็หดหาย
ทำให้ไม่มีเงินใช้จ่าย ดูขัดสนมากกว่าเดิม
แบบนี้ก็เรียกว่า เป้าหมายรองสวนทางกับเป้าหมายหลัก

หรือนักศึกษาบางคน เลือกเรียนมหาวิทยาลัย
ในคณะที่ตนเองคิดว่ษโก้หรูในสายตาคนอื่น
แคร์คนอื่นมากไป จนลืมคิดถึงความถนัดของตนเอง
แต่แล้วก็ไปไม่รอด เรียนไม่จบ เหล่านี้ก็เรียกว่า
เป้าหมายรองสวนทางกับเป้าหมายหลัก...เช่นกัน

เกือบทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ต่างกำหนดเป้าหมายหลัก
ของชีวิตเอาไว้ ซึ่งหากจะว่าไป เป้าหมายหลักของชีวิตของเราทุกคน
ก็คงมีความคล้ายคลึงกันอยู่ นั่นคือ
ต้องการเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
คนมากมายชอบมองว่า ความสำเร็จคือความมั่งคั่ง
และความมั่งคั่งคือเป้าหมายหลักของชีวิต
ไม่ค่อยมีใครพูดถึงความสุข ความรัก มิตรภาพ สักเท่าไหร่
โดยมากจะมุ่งเน้นไปทางเรื่องของการแข่งขัน
เอาชนะ และการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการเสียมากกว่า
ถ้าเช่นนั้นแล้ว...เกษตรกรตามชนบทที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
แต่เปี่ยมไปด้วยความสุขสงบ คงไม่มีวันเรียกตนเองได้ว่า
เป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตแม้แต่น้อย

"เวลาแต่ละวินาที
คือสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
เราไม่สามารถนำเวลาที่ใช้ไปแล้ว
กลับมาใช้ได้อีกเป็นหนที่สอง"

ดังนั้น...ก่อนที่เราจะก้าวต่อไปบนเส้นทางของชีวิต
เพื่อตามหาความฝันและความสำเร็จ
เราต้องบอกตัวเองให้ได้ว่า ความสำเร็จของเราคืออะไรกันแน่
คิดให้ออก มองให้ขาด หลุดออกจากกรอบความคิดแคบๆให้ได้
แล้วจงก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง หนักแน่นอีกครั้ง
อย่าลืมว่า! คนเราต้องมีเป้าหมายหลักในชีวิต
และเป้าหมายรองที่สอง สาม สี่ จะสวนกระแส
กับเป้าหมายหลัก หรือเป้าหมายที่หนึ่งไม่ได้เด็ดขาด
ถ้าอยากมีความสุข ต้องหาความสุข ไม่ใช่หา...อย่างอื่น

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อก หั ก กับ รั ก เขาข้างเดียว อันไหนเจ็บปวด?

การแอบรักเขาข้างเดียว … หรือ แอบรัก
สำหรับเรา …ขอบอกว่ามันเจ็บปวดกว่าการอกหัก

การรักเขาข้างเดียว เป็นสิ่งที่เขาไม่รู้… หรืออาจจะรู้
แต่เราไม่สามารถที่จะได้รับรักจากเขา
เราไม่สามารถที่จะแสดงอาการหึงหวงหรือห่วงความรู้สึกของเขาได้
เราไม่สามารถที่จะได้รับความรู้สึกรักจากเขา
หรือไม่มีโอกาสที่จะมีช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกัน

สำหรับการอกหัก …ถึงแม้จะเสียใจ และเสียเขาไป
แต่อย่างน้อย ยังมีช่วงเวลาความรู้สึกดี ๆ . . .
ที่คุณกับเขาเคยได้มีโอกาสรักกัน
ได้มีช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกัน…
ได้มอบความรู้สึกที่ดีๆ ให้กัน
ถึงแม้…เวลาเหล่านั้นจะผ่านไป แต่คุณก็ยังได้รับรักจากเขา
แต่การรักเขาข้างเดียวนี่สิ แย่จัง… มันเจ็บปวดจนบอกไม่ถูก

ขณะที่เพื่อนของเรากลับบอกว่า … อกหักเจ็บปวดกว่า
เพราะเสียดายความรู้สึก เสียดายวันเวลาที่ผ่านมา
เสียดายเรื่องดี ๆ ที่เคยมอบให้…

หากคุณอกหักหรือเลิกรักจากเขาแล้ว . . .
ความรู้สึกที่จะเหมือนเดิมมันยากมาก
แม้กระทั่งความเป็นเพื่อน บางทียังอาจไม่มีให้กันด้วยซ้ำ

แต่การแอบรักเขาข้างเดียว … ความรู้สึกของเพื่อน
หรือความเป็นมิตรภาพมันยังคงอยู่ต่อไป
และคุณก็ยังมีโอกาสที่จะอยู่ใกลัชิด ได้พูดคุยกับเขา
ได้รับรู้ความรู้สึกดี ๆ ของเขาบ้าง…
ในไม่ช้า. . . หากเขามีใจให้ … การรักเขาข้างเดียว
อาจจะทำให้คุณได้รับรักจากเขาได้เช่นเดียวกัน

ความคิดถึงห้ามกันไม่ได้

เคยห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดถึงเธอ
แต่แล้วก็รู้ว่า ..ฉันไม่เคยห้ามใจตัวเองได้เลยซักครั้ง"
มีใครเคยทำได้บ้างมั้ยคะ
ที่จะบอกตัวเองว่า ....อย่าคิดถึงเค้า.... แล้วทำได้ทุกครั้ง
ใครทำได้ ขอชมจากใจจริง ๆ ค่ะว่า..คุณเก่งมาก..
แค่คิดถึงมันคงไม่ผิดอะไรหรอกค่ะ ************ไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน ทำแล้วอาจไม่ได้อะไรตอบแทนทำแล้วอาจไม่ได้คำชื่นชมจากใคร แต่เราทำได้ในทุกเวลาที่เราต้องการค่ะ "


แอบหวังเล็ก ๆ ว่าเค้า ก็คงคิดถึงเราเช่นกัน ...แค่นี้ก็ดีเกินพอ...
แต่น่าเสียดาย บางครั้ง แอบหวังมากไป แต่เค้ากลับไม่ได้คิดถึงนี่สิ แย่หน่อย
เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องรู้ดีกว่าว่าเค้าจะกำลังคิดถึงใคร
แค่รู้ว่าใจเรากำลังคิดถึงเค้าอยู่ก็พอ (จริงเหรอ? แอบถามตัวเอง - - " )
สุขที่ได้คิดถึง แต่ทุกข์ที่รู้ว่าเค้าคิดถึงคนอื่น แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะคะ

ถ้าวันหนึ่ง คนที่เรารักเค้าไม่คิดถึงเรา จะรู้สึกยังไง
มีใครจะตอบมั้ยคะว่า"รู้สึกดีจัง เค้าไม่คิดถึงเราเลย " - -"
คำตอบนี้ไม่มีวันหลุดจากปากเจ้าของบล็อกค่ะ
ยกเว้นกรณีพูดประชด ใครตอบแบบนี้นับถือในสปิริตค่ะ
.ใครที่คิดแบบนี้อาจจะบอกว่าในเมื่อเค้าไม่รักเราแล้ว
เราจะคิดถึงเค้า แล้วเค้าจะคิดถึงเราทำไมกัน
มันก็จริงค่ะ แต่ลึก ๆ คงมีกันบ้างแหละ
ที่คงกำลัง ...แอบคิดถึง...
ต่อให้เกลียดกันแค่ไหน เลิกกันนานเท่าไหร่
แต่ความคิดถึง ไม่เคยไปไหน ยังอยู่กับเราเสมอ
เพียงแต่จะคิดถึงกันในแง่ดี แง่ร้ายก็อีกอย่างค่ะ

โดนทำร้ายด้วย.... "ความทรงจำ" ดีดี

โดนทำร้ายด้วย.... "ความทรงจำ" ดีดี




โดนทำร้ายด้วย.... "ความทรงจำ" ดีดี

คุณจะไม่เจ็บปวดอะไร ถ้าไม่ไปเปรียบเทียบว่า
เมื่อก่อน...คุณเคยสุขมากกว่านี้

ถ้าเราทุกคนเลือกได้...เราก็อยากให้ชีวิตของตัวเอง
มีแต่เรื่องราวดีดี เพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ
แต่ในทางกลับกัน หากนำคำถามนี้ไปถามกับคนผิดหวังในเรื่องความรักแล้ว ละก็
เขาคงเลือกที่จะไม่ต้องมีอะไรเหลือไว้ในความทรงจำ มากกว่า
ถึงแม้ว่ามันจะเคยสวยงามหรือดีสักแค่ไหนก็ตาม...

โกวเล้ง เคยพูดไว้ว่า "ความทรงจำ เป็นกับดักของชีวิต"
แสดงว่า "อดีต" ของแต่ละคน
อาจมีผลต่อการดำเนินชีวิตไปในวันข้างหน้า
หลายคนพูดกันมากกว่า "อดีต" ที่เลวร้ายที่ผ่านมา
เมื่อจับมันมามองในมุมใหม่ ก็สามารถกลายเป็นบทเรียนที่ดีบทหนึ่งได้
แต่สำหรับ "อดีต" ที่ดีดีล่ะ
ซึ่งมันควรจะดีใช่มั้ย ก็แล้วทำไม มันถึงกลับทำร้ายใครบางคนได้มากมายไม่แพ้กัน
มิหนำซ้ำยิ่งใครที่เคยมีช่วงเวลาดีดี มากเท่าไหร่
ยิ่งเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น

แล้วเราจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้อย่างไร หากคนที่พูดถึงนั้น เป็นตัวเราเอง?
ฉันมองเรื่องนี้ว่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบางทีก็มาจากการที่เรา ไม่เข้าใจ
หรือลืมที่จะเข้าใจ "สิ่งที่เป็นอยู่จริง" เราลืมนึกไปว่า

ความทรงจำที่ผ่านมานั้น
ที่แท้มันคือ "รูปถ่าย" รูปหนึ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
ในแต่ละชั่วโมง แต่ละวัน แต่ละสัปดาห์
จนถึงแต่ละเดือน แต่ละปีเราก็จะมี "รูปถ่าย" เหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ
และถ้าเราสามารถเก็บ "รูปถ่าย" นั้นได้จริง
แล้วหยิบมันออกมาพิจารณาดู เชื่อว่าเราจะเห็นอะไรดีดี
ที่ให้ข้อคิดบางอย่างในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เราจะมองเห็นความแตกต่าง เห็นความไม่คงเส้นคงวาของอารมณ์
และความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองในแต่ละช่วง
เราจะมองเห็นใบหน้า ที่วันนี้อาจยิ้มแฉ่งแบบมีความสุขจนล้น
ในขณะที่อีกไม่กี่วันต่อมา ใบหน้าเดียวกันนี้ อาจเปื้อนทุกข์จนดูไม่ได้เลย

ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็คือ "สิ่งที่เป็นอยู่จริง"
ที่เราจะต้องมองให้ออกว่าเป็น "ธรรมดา" ของชีวิตมนุษย์
และที่เราต้องเสียใจ ทุกข์ใจ ก็เป็นเพียงเพราะ
เราไม่สามารถทำให้ "รูปถ่าย" ที่ดีๆเหล่านั้นอยู่กับเราไปได้ตลอด
เพราะสิ่งที่เราหวัง ล้วนเป็นความต้องการที่เป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง...

การจะมองความเป็นไปต่างๆ เหล่านี้ให้เห็นแจ่มชัดและลึกซึ้งได้นั้น
เราอาจจำเป็นต้องฝึกตัวเอง โดยใช้หลักปฏิบัติทางพุทธศาสนาเข้ามาช่วย
ซึ่งต้องอาศัย สติ เข้ามากำกับ
เพราะสตินั้นจะช่วยให้เรามองเห็นความจริง ตามที่เป็นจริง
เห็นความรู้สึกนึกคิดของตัวเองที่เกิดขึ้นตามที่เป็น จริง
คือเห็นโดยไม่ต้องตัดสิน ไม่พยายามผลักไส หรือเก็บกดมันไว้
หรือไม่ก็เพลินแล้วจมอยู่กับมันจนลืมตัว "อดีต" หรือความทรงจำที่มีเหล่านั้น
ก็ไม่สามารถเข้ามาตอแยหรือมามีอิทธิพลกับชีวิตของเรา ได้เพราะเราจะรู้สึกตัวอยุ่เสมอว่า
เมื่อไหร่บ้าง...ที่เราควรควบคุมมันไว้ และเมื่อไหร่บ้าง...ที่เราควรจะปล่อยวางมันได้

ถึงแม้ว่า "เวลา" จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในชีวิต
แต่จริงๆแล้ว เราก็ต้อง "เปลี่ยน" ทุกสิ่งด้วยตัวเองเหมือนกัน...

บางครั้ง....ความสุขหรือความทุกข์ที่เกิดขึ้น กับจิตใจของเรา
มันก็มาจากการชอบตัดสิน ชอบเปรียบเทียบของตัวเราเอง
เชื่อหรือไม่ว่าคุณจะไม่รู้สึกทุกข์ใจ หรือไม่ทุกข์น้อยลง
ถ้าคุณเลิกเสียดายกับอดีต ที่ถึงแม้ว่าจะเคยงดงามแค่ไหน
แล้วคุณก็จะไม่เจ็บปวดอะไร ถ้าไม่ไปเปรียบเทียบว่า
เมื่อก่อนคุณเคยสุขมากกว่านี้...
และจะไม่มีความทรงจำไหน ทำร้ายคุณได้เลย
ถ้าวันนี้ของคุณ มีจิตใจที่เข้มแข็งและนิ่งพอ

"Memory is a wonderful treasure chest for those who khow to pack it"
"ความทรงจำ คือหีบสมบัติที่วิเศษสำหรับคนที่รู้จักเก็บ"

ไม่เป็นไรที่วันนี้ คุณจะยังรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ
แต่ไม่แน่...พรุ่งนี้คุณอาจเข้มแข็งจนตัวเองก็แปลกใจ
แค่เปลี่ยนตัวเอง แค่รับทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตอย่างเข้าใจ
แล้วคุณก็จะกลายเป็นคนใหม่ที่ใช้ชีวิตเป็น
ถึงแม้จะมีความทรงจำเก็บเอาไว้มากมาย
แต่ก็ยังทำให้อมยิ้มได้เสมอเมื่อนึกถึงมัน... :")

บุคคลที่ไม่ควรจะมีความรักด้วย

บุคคลที่ไม่ควรจะมีความรักด้วย1
ความสัมพันธ์อันตราย มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะห้ามใจไม่ให้รักคนที่คิดว่าใช่ คนที่ได้อยู่ใกล้ ได้พูดคุยด้วยแล้วมีความสุข แม้ว่าแทบจะไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยก็ตาม อยากรู้ไหมว่าทำไมรักอันตรายกับผู้ชาย 4 แบบต่อไปนี้ถึงได้หอมหวานนัก!?


แฟนเพื่อน
ทำไมรักเขาจัง? คุณได้เห็นเขาในเวอร์ชั่นไร้ฟอร์ม ไม่เหมือนตอนอยู่ต่อหน้าเพื่อนคุณ ที่เขาแสดงอาการประหม่า งุ่นง่าน แต่กับคุณเขาสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ มันก็เลยง่ายที่จะปล่อยความรู้สึกให้เผลอคิดไปว่า ถ้าเขาเป็นแฟนคุณก็คงดี

ทำให้มันเวิร์ก คุณไม่สามารถบอกความรู้สึกนี้กับเขาได้ จนกว่าคนทั้งคู่จะเลิกกัน ถ้าคุณทำ ก็เท่ากับทำลายความสัมพันธ์กับเพื่อนและคงไม่ทำให้เขามองคุณในแง่ดีแน่ๆ ดังนั้น การเก็บความรู้สึกไว้และอดทนรอจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด มันจะช่วยให้คุณได้ทบทวนใจตัวเองด้วยว่า คุณชอบเขาจริงๆ หรือแค่อารมณ์วูบวาบ ตื่นเต้นที่อยากจะเอาชนะ

ถอยเถอะถ้า.......คุณทั้งคู่เริ่มคุยเรื่องนอกลู่นอกทางกันมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเขาเริ่มเปิดปากเล่าเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว (อย่างเช่นเรื่องเซ็กซ์)ของเขากับเพื่อนคุณให้ฟัง กินในที่ลับไขในที่แจ้งแบบนี้ไม่แฟร์กับเพื่อนคุณเอาซะเลย มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนเขาทำกัน แล้วคุณยังจะรักเขาอีกเหรหนุ่มออนไลน์
ทำไมรักเขาจัง? ทักษะในการหยอดข้อความเวลาแชทกันหรือแมสเสจหวานๆ ของเขาทำเอาคุณวาบหวามจินตนาการไปได้ล้านแปด การที่คุณไม่ต้องคุยกับเขาแบบเผชิญหน้า ช่วยลดความประหม่าและทำให้เกิดความใกล้ชิดกันเร็วขึ้น มากขึ้น

ทำให้มันเวิร์ก ลองใช้เวลาด้วยกันจริงๆ แบบไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ การได้พบปะคุยกันซึ่งๆ หน้าจะทำให้คุณได้เห็นตัวตนและบุคลิกลักษณะของเขาในโลกแห่งความเป็นจริง ลองนัดเจอกันในที่สาธารณะก่อน และเพื่อความปลอดภัยควรบอกพ่อแม่เราไว้ก่อนออกไปเจอว่าเราจะออกไปพบเพื่อนใหม่ที่ไหนยังไง สำคัญที่สุดคือ ชวนเพื่อนไปด้วย

ถอยเถอะถ้า.... ดูเหมือนเขาพยายามจะชวนคุยแต่เรื่องอย่างว่า...ออดอ้อนขอรูปในชุดวาบหวิวของคุณยิกๆ แถมยังกระตือรือร้นอยากพบคุณในที่ส่วนตัว สัญญาณอันตรายดังลั่นเลยว่า เขามีเจตนาไม่ดีคบกับคุณแค่หวังฟันหวังเรื่องบนเตียงอย่างเดียวไม่ได้มีเรื่องความรักมาเกี่ยวเลยสักนิด




หนุ่มสูงวัย
ทำไมรักเขาจัง? ก็เขาดูเท่และมาพร้อมออปชั่นเพียบ (โสด อิสระ หน้าที่การงานดี มีรถ ฯลฯ) ซะขนาดนั้น เขาทำให้มุกฮาๆ ที่เคยขำของเพื่อนชายวัยเดียวกันกับคุณดูแป๊กไปเลย ประสบการณ์ ความรู้ บวกกับความสามารถในการรู้ใจสาวทำให้เขามีภาษีมากกว่าเพื่อนชายวัยเดียวกันหลายขุม จะไม่ให้ปลื้มมมมมได้ยังไงถ้ามีหนุ่มที่สามารถเลือกผู้หญิงคนไหนก็ได้...เลือกที่จะคบคุณ!

ทำให้มันเวิร์ก ชวนเขาออกไปแฮงค์เอาต์กับกลุ่มเพื่อนของคุณและของเขา บีบช่องว่างระหว่างวัยให้แคบเข้ามา ระหว่างนั้นถ้าคุณรู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเองขึ้นมาแทนที่จะรู้สึกสบายใจเป็นกันเองละก็ คงต้องคิดทบทวนถึงความเหมาะสมคู่ควรกันแล้วละ
อ?